พระแก้วบุษราคัมวัดสิมนาโก
วัดสิมนาโกประวัติความเป็นมาวัดสิมนาโก ตั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๙ โดยมีพระาจารย์ลี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และประธานฝ่าย ฆราวาส มี ๓ คน คือ นายกลาง สียา นายชาบดี และนายโยธี พร้อมด้วยชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้น วัดสิมนาโก ได้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง ในปี พ.ศ. ๒๕๓๓ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๒ กว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร การบริหรและการปกครอง มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม คือ
รูปที่ ๑ พระลี ยันตะสีโล พ.ศ. ๒๓๙๙-๒๔๑๐
รูปที่ ๒ พระสุรีย์ อภิชาโต พ.ศ. ๒๔๑๕-๒๔๔๕
รูปที่ ๓ พระคำ พ.ศ. ๒๔๔๕-๒๔๖๐
รูปที่ ๔ พระยิ่ง สีลเตโช พ.ศ. ๒๔๖๐-๒๔๗๐
รูปที่ ๕ พระบุดดี นาโค พ.ศ. ๒๔๗๐-๒๔๗๒
รูปที่ ๖ พระครูพิศาล ศิลปยุต พ.ศ. ๒๔๗๒-๒๕๒๒
รูปที่ ๗ พระครูเมตตาคุณาภรณ์ ตั้งแต่พ.ศ. ๒๕๒๒
การศึกษามีโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม เปิดสอนเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๒ เป็นต้นมา การศึกษามีโรงเรียนพรปริยัติธรรมแผนกบาลี เปิดสอนเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๗ โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญ เปิดสอนเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๕ และศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวัด เปิดสอนเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓
ที่ตั้งตั้งอยู่ที่บ้านนาโก ถนนนาโกพิศาลราษฎร์ หมู่ที่ ๗ ตำบลนาโก อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๑๐ ไร่ ๑๒ ตารางวา น.ส.๓ ก เลขที่ ๔๐๙๒ อาณาเขตทิศเหนือประมาณ ๓ เส้น จดถนนสาธารณะ ทิศตะวันออกประมาณ ๓ เส้น จดบ้านเลขที่ ๑๔๓ ทิศใต้ประมาณ ๓ เส้น จดถนนสาธารณะ ทิศตะวันตกประมาณ ๓ เส้น จดบ้านเลขที่ ๓๒๘, ๗๓๕ และ ๗๒๙ อาคารเสนาสนะประกอบด้วยอุโบสถ กว้าง ๘ เมตร ยาว ๑๔ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๒ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ กุฎิสงฆ์ จำนวน ๕หลัง เป็นอาคารไม้ ๑ หลัง ครึ่งตึกครึ่งไม้ ๔ หลัง วิหาร กว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๑๔ เมตร เป็นอาคารทรงไทยอีสาน ศาลาอเนประสงค์ อาคารหอพิพิธพันฑ์ และอาคารสำนักงานคณะสงฆ์ อำเภอกุฉินารายณ์ ปูชนียวัตถุ มีพระพุทธรูปโบราณ ทำด้วยพลอยบุษราคัม ปางสมาธิ พระพุทธรูปปั้นปางมารวิชัย ๒ องค์ พระพุทธรูปทองสำริด ปางมารวิชัย ๓ องค์ พระพุทธรูปหินศิลา ๓ องค์ และโบราณวัตถุมีเครื่องปั้นดินเผาของคนสมัยโบราณ ๓๐ ใบ ไม้แกะสลักลายดอกไม้ จำนวน ๓๐ แผ่น ไม้แกะสลักรูปพญานาคจำนวน ๑๒ อัน และเงินตราของไทยสมัยต่างๆอาคารเสนาสนะสิมวัดสิมนาโก เริ่มสร้าง พ.ศ. ๒๔๘๒-๒๔๘๖ ประธานในการก่อสร้าง คือ พระอาจารย์ลี ร่วมกับพระครูพิศาลศิลปยุต (อดีตเจ้าคณะอำเภอบัวขาว) ซึ่งท่านเป็นช่างอยู่ในตัว ครั้งแรกใช้ช่างซึ่งบวชเป็นพระมาจาก บ.พุ่มแก อ.นาแก จ.นครพนม ซึ่งได้เทคนิคการก่ออิฐจากช่าญวนมาเริ่มก่อประตูโค้งให้ นอกนั้นท่านพระครูพิศาลศิลปยุตได้ควบคุมเองทั้งหมด อิฐก่อสร้างเอาดินจากที่นาบ้านนาโก ชาวบ้านช่วยกันปั้นเอง ปูนขาวนำมาจากภูหินปูน บ.หนองห้าง ทวยนาคทั้ง ๑๐ ตัวนั้น ใช้ช่างพื้นบ้านของ บ.นาโก เป็นผู้แกะสลัก เป็นที่น่าสังเกตุว่านาคแต่ละตัวจะผิดแผกกันไป ตามการออกแบบที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันอย่างสนุกสนาน ส่วนเสมาหินนั้น ทางวัดได้นำมาจาก ดงหลักสิม ใกล้กับบ้านซาด ต.นาโก นั้นเอง อดีตด้านหน้าของสิมหลังนี้มีอาคารหลังคาปั้นหยาขวางอยู่ หลังหนึ่งเรียก “หอเย็น” ไว้สำหรับประชุมสงฆ์ก่อนทำสังฆกรรมและให้กุลบุตรรอก่อนพิธีอุปสมบทช่างออก แบบโดยพระครูพิศาลศิลปยุต ปัจจุบันรื้อถอนแล้ว และมีการบูรณะสิมใหม่
รูปแบบสิม ,วัสดุและโครงสร้างแปลนรูป ๔ เหลี่ยมผืนผ้า ความยาว ๔ ช่วงเสา ยาว ๑๔.๒๐ เมตร กว้าง ๖.๖๐ เมตร หังคาเป็นจั่วชั้นเดียวคลุมตลอด ตัวสิมแบ่งเป็น ๕ ช่วงเสา โดยช่วงเสาเเรกเป็นหลังคาคลุมบันได อีก ๔ ช่วงเป็นส่วนที่ใช้ทำสังฆกรรม บานหน้าต่างทำเป็นกรอบ ๔ เหลี่ยม ขนาดเล็ก ๐.๓๐ ม. x๐.๘๐ ม. มีรูปเขียนสีติดกระจก หน้าบันทั้งสองด้าน ปั้นปูนเป็นลาย ๔ดอกวางในแนวเสมอกันทั้งทางตั้งและทางนอนมีเส้นทแยง ๔๕ องศา เป็นตัวเชื่อมประสานดอกดวงให้เกี่ยวกันพันกันตลอด กลางดอกมีกระจกสะท้อนแสงรูปวงกลมประดับอยู่ดูคล้ายลายผ้าขิดยกดอกซ้ำๆกัน ส่วนด้านหน้ามีประตูเดียวทำเสาเหลี่ยมประกบ ๒ ด้าน แต่ไม่ได้เจาะผนังเป็นช่องหน้าต่างเพียงแต่ทำอาร์คไปประดับหลอกๆไว้เท่า นั้น ทั้งพญานาคที่ราวบันไดและฐานแอวขันก็ทำหยาบๆ แบบฝีมือช่างพื้นบ้านทั้วๆไป บันไดทำผายออกเอาอย่างช่างญวน ซึ่งถ่ายทอดมาจากอิทธิพลฝรั่งเศสอีกทอดหนึ่ง โครงหลังนั้นคาเป็นไม้ทั้งหมด เดิมมุงแป้นเกล็ดซึ่งสั่งซื้อมาจากไซ่ง่อน แต่มีการบูรณะทำหลังคาใหม่ทับไป มองเห็นหน้าบันเพียงส่วนล่างเท่านั้น ฐานและผนังใช้อิฐถือปูนแบบโบราณ ส่วนประดับตกแต่งใช้ไม้แกะสลักโดยช่างพื้นบ้านทั้งสิ้น ที่ถือเป็นจุดเด่นน่าสนใจของสิมหลังนี้ ก็คือ ทวยนาคข้างละ ๕ ตัวนั้น ช่างแกะสลักไม่ให้เหมือนกันเลย แม้แต่คู่เดียว รูปแบบของศิลปะเป็นสกุลช่างพื้นบ้านอีสานอย่างเต็มที่ น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในหอพิพิธพันธ์ของวัด ทวยนาคที่ติดตั้งอยู่ที่สิมในปัจจุบันได้หล่อปูนรูปแบบเหมือนกันทุกตัวติด ตั้งไว้แทน
อ้างอิงจาก
http://202.12.97.23/main/esanart/19%20Province/Kalasin/Simnako/KLS%20Simnako.html